1.)ตั๊กแตนตำข้าวดอกไม้ เพราะว่าแมลงชนิดนี้จะมีความสวยงามมากที่สุด เมื่อ โตตัวเต็มที่ จะอาศัยอยู่กับดอกไม้เพื่อหากินอาหาร
สำหรับเพศผู้นั้น จะมีขนาดเล็กกว่าเพศเมีย และส่วนของตัวนั้นจะมีสีอ่อนกว่าส่วนท้องจะมี จำนวนปล้อง 8 ปล้อง ส่วนเพศเมียจะมีปล้องท้อง 6 ปล้อง ตัวเมียนั้นจะมีขนาดใหญ่กว่าและ ที่สำคัญ ตั๊กแตนตำข้าวดอกไม้นั้นจะมีสีสันที่สวยงามอีกด้วย ส่วนไข่ของตั๊กแตนตำข้าวดอกไม้นั้นจะมีลักษณะ เป็นแนวยาวที่มีการระนาบกับพื้นผิว และจะมีสารห่อหุ้มไข่ของตั๊กแตนตำข้าวดอกไม้เอาไว้เพื่อป้องกันไข่จากศัตรูที่จะมาทำร้ายไข่ของมัน ส่วนไข่ที่สมบูรณ์หนึ่งกระเปาะนั้นจะมีไข่มากถึง 40 ฟอง โดยการวางไข่นั้น จะมีการวางห่างกันเป็นอาทิตย์ หรือ ประมาณ 1 เดือน ที่มีการวางไข่ออกมา หลังจากวางไข่ 1 เดือน ไข่ที่ออกมานั้นก็จะฟักเป็นตัวอ่อน ส่วนของตัวอ่อนที่เกิดขึ้นมานั้น ช่วงแรกจะมีสีแดงทั้งตัวแต้มด้วยสีขาว แล้วจะมีการเปลี่ยนสีไปเป็นสีขาวแต้มขึ้นมา เมื่อถึงช่วงในการผสมพันธุ์ ก็จะมีการย้ายที่อยู่เพื่อที่จะทำการขยายเผาพันธุ์ สำหรับอาหารของตั๊กแตนตำข้าวนั้น จะกินแมลงที่มีขนาดเล็กๆ เพื่อเป็นอาหารแต่เมื่อตั๊กแตนตำข้าวดอกไม้มีขนาดใหญ่ขึ้นจะกินจิ้งหรีด ขนาดเล็กเพื่อเป็นอาหารเพื่อการอยู่รอดของแมลงชนิดนี้ เพราะฉะนั้น เมื่อตั๊กแตนตำข้าวดอกไม้มีขนาดที่ใหญ่มากขึ้น ก็จะมีความสวยงามเป็นอย่างมากเลย
2.) ตั๊กแตนตำข้าวกล้วยไม้สีชมพู หรือ ตั๊กแตนต่อยมวยกล้วยไม้สีชมพู (อังกฤษ: Walking flower mantis, Pink orchid mantis; ชื่อวิทยาศาสตร์: Hymenopus coronatus) เป็นแมลงจำพวกตั๊กแตนตำข้าวชนิดหนึ่ง
ได้ชื่อว่าเป็นตั๊กแตนตำข้าวที่มีสีสันและลักษณะสวยที่สุด[1] โดยมีสีตลอดลำตัวเป็นสีชมพูหรือชมพูอ่อนเหลือบกับสีขาว บางตัวมีสีขาวล้วน และมีลักษณะพิเศษคือ สามารถเปลี่ยนสีได้ในระหว่างวัน ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อม เช่น ความชื้นและความเข้มของแสง
ตั๊กแตนตำข้าวกล้วยไม้มีส่วนขาขยายออกเพื่อเลียนแบบกลีบดอกไม้ ชอบอยู่อาศัยตามธรรมชาติที่มีไม้ดอกไม้ประดับสีขาวหรือสีชมพู หรือเป็นไม้พุ่ม สามารถซ่อนตัวจากศัตรูได้อย่างแนบเนียน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกล้วยไม้ มักจะนิ่ง ๆ เพื่อรอเหยื่อที่หลงทาง หรือทำตัวเป็นนักล่า เมื่อพบว่าเหยื่อเห็น ตัวผู้จะว่องไว เคลื่อนไหวรวดเร็ว และในช่วงผสมพันธุ์หากตัวเมียไม่พร้อม ตัวผู้อาจถูกตัวเมียจับกินเป็นอาหารได้
ตัวเมียจะมีความยาวประมาณ 6-7 เซนติเมตร ขณะที่ตัวผู้จะมีขนาดเล็กกว่าคือ 2.5 เซนติเมตร พบกระจายพันธุ์ทั่วไปในป่าดิบชื้นของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จนถึงมาเลเซีย และอินโดนีเซีย
3.)ตั๊กแตนใบไม้เป็นแมลงที่อยู่ในอันดับ Phasmatodea สกุล Phylium โดยแมลงในอันดับนี้คือพวกตั๊กแตนกิ่งไม้ ตั๊กแตนใบไม้ ซึ่งถือว่าเป็นแมลงหายากที่รู้จักกันดีในชื่อของแมลงกลุ่ม Phasmids โดยลักษณะเด่นประการหนึ่งคือ เป็นแมลงที่ไม่ค่อยว่องไว มีการเคลื่อนที่ช้า และไม่กระโดด มีรูปร่างเหมือนใบไม้และลวดลายบนตัวที่เหมือนกับเส้นใบของใบไม้ ทำให้ดูกลมกลืนกับธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่อยู่อาศัย แมลงกลุ่มนี้จึงมีความสำคัญในแง่ของการศึกษากระบวนการวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิต ที่ใช้เทคนิคการพรางตัว เพื่อความอยู่รอด ดังนั้นตั๊กแตนใบไม้จึงเป็นตัวอย่างที่ดีในการศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งมีชีวิตกับสิ่งแวดล้อม ในด้านการป้องกันตัว โดยใช้เทคนิคการพรางตัว ซึ่งถือว่าเป็นตัวอย่างที่ดีในแง่ของความสัมพันธ์เชิงวิวัฒนาการระหว่างสัตว์และพืชที่มีวิวัฒนาการมานานกว่า 47 ล้านปี โดยคำว่า Phasma มาจากภาษาละติน แปลว่า ผี ซึ่งมาจากกลไกที่ใช้ในการหลบหลีกศัตรูของแมลงกลุ่มนี้ นั่นเอง
4.) ตั๊กแตนโมชอบอาศัยตามทุ้งหญ้า พื้นที่โล่ง ตามทุ่งนาในพื้นที่ราบสูง มีความสารถพิเศษ กว่าตั๊กแตนชนิดอื่นคือ
ดีดตัวครั้งหนึ่ง บินได้อึดและนาน บินได้ไกล ร่วม 200 เมตร ต่อ 1 ครั้ง
จึงนับได้ว่าเป็นตั๊กแตนที่จับตัวได้ยากนักแล อีกทั้ง “ตั๊กแตนโม” มีดวงตาประกอบ ชนิดตารวม
ที่มีขนาดโตกว่าตั๊กแตนปกติ จึงมาสามารถ ตรวจจับความเคลื่อนไหวได้อย่ารวดเร็ว
ชอบกินยอดหญ้าอ่อน รวมทั้งยอดอ่อนของพืชพันธุ์ตามท้องถิ่นบางชนิด ไม่พบว่าตั๊กแตนโม ทำลายพืชไร่นั่นแสดงว่าตั๊กแตนชนิดนี้ กินยอดพืชที่เกิดตามถิ่นฐานเดิมเป็นอาหารปัจจุบันได้มีการเปลี่ยนการเพาะปลูก มาเป็นการปลูกพืชทางเศรฐกิจ ซึ่งนั่นคือ การลดจำนวนพืชพันธุ์ตามท้องถิ่นทำให้ตั๊กแตนชนิดนี้ หายากยิ่ง อีกทั้งพฤติกรรมการสืบพันธุ์ ของตั๊กแตนชนิดนี้ ปี 1 สืบพันธุ์ แค่ครั้งเดียว
จึงลดจำนวนลงอย่างรวดเร็ว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น